ปตท.คาด มี.ค.ผลการศึกษาโครงการนำเข้าเอลเอ็นจี จะแล้วเสร็จ พร้อมตั้งงบลงทุน แสนล้านบาทเดินหน้าพัฒนาโครงการลงทุน
Written by Arin P. นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.อยู่ระหว่างการศึกษาในการจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ของกลุ่มปตท.จะได้ข้อสรุปเดือน มี.ค.นี้ ว่า หากมีนำเข้ามาทดแทนก๊าซธรรมชาติได้เกิน 1 ล้านตัน และเป็นราคาตลาดจร (สปอต) เพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น จะต้องมีเจรจากับผู้ผลิตปิโตรเลียม ทั้งฝั่งอ่าวไทยและเมียนมาให้ชัดเจนก่อน
โดยในปีนี้กลุ่ม ปตท.จะใช้เงินลงทุนรวม 100,000 ล้านบาท ลงทุนในโครงการต่างๆ
รวมทั้ง ปตท.ยังได้มีการเสนอไปยังรัฐบาล ให้มีการดำเนินโครงการป้องกันปัญหาภัยแล้งในอนาคต โดยเฉพาะน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ทั้ง จ.ชลบุรี ระยอง ให้เพียงพอ ควรที่จะมีการทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ทั้งระบบในรูปแบบการร่วมลงทุนกับเอกชน (พีพีพี) รวมถึงการนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด เพื่อสร้างความมั่นคงแก่ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ทั้งนี้ ปตท.พร้อมเข้าร่วมทุนโครงการผลิตน้ำอุตสาหกรรมจากน้ำทะเล เพราะเทคโนโลยีการผลิตน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดในปัจจุบันมีต้นทุนต่ำลง โดยโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ และจีซีมีการผลิตด้วยระบบนี้ 20% ของความต้องการใช้น้ำอุตสาหกรรม
สำหรับแผนการผลิตในธุรกิจปิโตรเคมี นั้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีซี และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) จะเดินเครื่องผลิตปิโตรเคมีเต็มกำลังผลิต แม้ประเทศจีน จะมีความต้องการใช้ลดลงจากการปิดโรงงานผลิตจากกรณีไวรัส COVID-19 และเชื่อว่าผลกระทบจการแพร่ระบาดในครั้งนี้ จะสามารถควบคุมได้และเป็นปัญหาระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งคาดว่าในไตรมาสที่ 2 โรงงานอุตสาหกรรมในจีนส่วนหนึ่งจะกลับมาเดินเครื่องการผลิตได้และจะทะยอยเพิ่มกำลังการผลิต
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.จะได้ผลดีจากโรงงานปิโตรเคมีในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกได้ปิดกิจการลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ส่งผลให้เป็นการโอกาสเพิ่มการส่งออกของผลิตภัณฑ์กลุ่ม ปตท.มากขึ้นได้อีกทางหนึ่ง