ปลายเดือนที่ผ่านมา มีนัดทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนในแถวย่านพระปิ่นเกล้า หลังทานเสร็จออกจากร้าน มาสะดุดตากับตู้ขายต้นไม้

แหมะ.....มันช่างดึงดูดสายตา เพราะความน่ารักของต้นไม้ที่มีการออกแบบ ใส่ภาชนะที่ดูดี เหมาะแก่การมอบเป็นของฝาก ของขวัญ จนต้องเดินเข้าไปดู มองซ้ายมองขวาไม่เห็นคนขาย แต่พบกับจอภาพพร้อมกับมี QR cord ด้วยความที่เป็นคนชอบไม้กระถางอยู่เป็นทุนเดิม ผมตัดสินใจทันที

 “ลองสิครับ” กด ๆ จิ้ม ไป

......ทำอย่างไรที่จะได้กระถางต้นไม้เป็นเจ้าของ

.....เริ่มปฏิบัติการทำการซื้อ แม้ตอนเริ่มต้นจะเงอะงก งกเงิ่น(ตามวัย) บ้างด้วยความเป็นมือใหม่หัดซื้อ  แต่ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะเค้ามีสเตปแนะนำทีละขั้นตอน พร้อมจ่ายเงินผ่านระบบอีแบงค์กิ้ง โอ้วววววว ในที่สุด.....ก็ได้มาเป็นเจ้าของ เจ้ากระถางต้นไม้มงคล แสนน่ารัก 2 กระถาง  ชื่อ ไผ่มังกรทอง กับ เขียวหมื่นปี...ทำไมมันซื้อง่ายขายคลองแบบนี้นะ

       เมื่อมองกระถางต้นไม้ที่ซื้อมาแล้ว ทำให้เกิดความคิดค้นหาเจ้าของไอเดียสุดเก๋นี้ Business inTrend  เริ่มปฎิบัติการตามหา จนสามารถได้พูดคุยกับ คุณ กฤษณะ รัตนพันธุ และคุณ พัณณิตา ศิลป์ฟ้าพานิชย์ เจ้าของบริษัท กรีนอัพแอนด์อัพ จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาธุรกิจตู้ขายต้นไม้อัตโนมัติและตลาดต้นไม้ออนไลน์ส่งถึงบ้าน 

         คุณกฤษณะ บอกว่า ไอเดียการทำ“ตู้ขายต้นไม้อัตโนมัติ” นี้เกิดจากความชื่นชอบต้นไม้และได้ศึกษาอุปนิสัยของการเลือกพันธุ์ไม้นาๆชนิด ซึ่งก็พบว่าปัญหาของการเลือกซื้อพันธุ์ไม้ที่ดีมีคุณภาพ ต้องอาศัยการเดินทางในการหาซื้อตามย่านต่างๆทั่วกรุงเทพฯที่สำคัญ คือ อากาศร้อน กว่าที่จะได้ต้นไม้สักต้น หรือสองต้น ทำให้เสียเวลา 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นจึงเกิดไอเดียการทำธุรกิจขายต้นไม้อัตโนมัตินี้ขึ้นในห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ชื่นชอบต้นไม้แบบผมสามารถเข้ามาเลือกซื้อต้นไม้ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยความสะดวก สบาย ง่ายแก่การพกพา ถือต้นไม้กลับบ้านได้ทันที แถมยังไม่ร้อน ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ๆ เพียงแค่ 200-300 บาท ต่อต้น ซึ่งที่สำคัญจะเห็นว่าพันธุ์ไม้มงคลกำลังเป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน

         “ธุรกิจนี้เริ่มมาเมื่อ 2 ปีก่อน จึงได้คิดหาวิธีการขายต้นไม้ด้วยตู้อัตโนมัติได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แม้จะเป็นตู้อัตโนมัติไม่มีคนขายหน้าร้าน แต่ลูกค้าสามารถเข้าไปพูดคุยสอบถามการดูแลต้นไม้และการเลือกพันธุ์ไม้ต่างๆกับผู้ขายได้ผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไลน์แอด ได้อีกด้วย ” คุณกฤษณะ กล่าว

          “ตู้ขายต้นไม้อัตโนมัติ” ได้เปิดจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วกรุงเทพ ประมาณ 10 แห่ง ซึ่งราคาที่จำหน่ายก็ไม่ได้แตกต่างจากร้านจำหน่ายต้นไม้ทั่วไป  เพราะใช้วิธีเลือกจากแหล่งเพาะพันธุ์ไม้โดยตรง

พร้อมกับคอยตรวจสอบความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาเลือกซื้อ และสแกนคิวอาร์โค้ช ชนิดพันธุ์ไม้ที่กำลังเป็นที่ต้องการ ร่วมถึงการได้พูดคุยของลูกค้าผ่านแอดมินของบริษัท

 ทำให้ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่าหมื่นรายแล้ว  เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีละ 20%  ซึ่งเทรนด์ต้นไม้ที่กำลังได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นกลุ่มพันธุ์ไม้มงคลและฟอกอากาศ ขนาดแบบตั้งในที่ทำงานและภายในบ้าน

       คุณกฤษณะ ยังกล่าวอีกว่า ในปี 2563 นี้ บริษัทยังได้เปิดเว็ปไซด์ชื่อ morejungle หรือ www.morejungle.com ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางขายต้นไม้แบบออนไลน์ ที่มาพร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านเพื่อความสะดวกของลูกค้า และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้ามาสั่งต้นกุหลาบ เป็นจำนวนมาก  ส่วนในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ที่เป็นวันสำคัญของวันครอบครัวกำลังอยู่ระหว่าง  เตรียมการหาพันธุ์ไม้ที่เหมาะกับฤดูเทศกาลนี้มานำเสนอให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน 

         ธุรกิจนี้นับว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาผสมผสาน และตอบโจทย์คนรักต้นไม้กันเลยทีเดียว นับว่าเป็นหนึ่งสตาร์ทอัพที่น่าสนใจเลยก็ว่าได้ ที่แก้ปัญหาเรื่องของเวลา การค้นหาต้นไม้ที่ชอบที่ต้องการ เพราะเขาใส่ใจและตั้งใจการคัดเลือกต้นไม้ และบริการหลังการขาย ใครที่เป็นมือใหม่ก็หมดความกังวลว่าจะเลี้ยงต้นไม้ไม่รอดเหมือนที่ผ่าน ๆ มา

แม้จะเกิดทีหลังคนรุ่นใหม่ แต่หัวใจผู้เขียนไม่ยอมแพ้ต่ออายุนะครับ....โลกหมุนไป หัวใจของผู้เขียนก็หมุนตาม....รักเรา รักษ์โลกกันนะครับ ^_^