"สุริยะ"ลุ้นกรรมการ กลั่นกรองสศช.อนุมัติงบก้อนแรก หวังกระตุ้นศก.
Written by Arin P.![](/images/26066304.jpg)
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ "บ้านบึงโมเดล"ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ติดตามความคืบหน้าการเสนอโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 14,000 ล้านบาท จากโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาลวงเงินรวม 4 00,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)โดยระยะแรกคาดว่ากรรมการกลั่นกรองฯจะอนุมัติวงเงินให้รอบแรก 1,900 ล้านบาทที่กระทรวงฯจะเน้น เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในโครงการที่เน้นการจ้างงาน ฝึกอบรมเกษตรกร ช่วยในการแปรรูปสินค้าเกษตร เป็น 1 ใน 4 โครงการที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)จัดทำโครงการไว้ในขณะนี้
"หากกสอ.ได้รับอนุมัติเงิน 1,900 ล้านบาทอย่างเป็นทางการและเงินดังกล่าวเข้าสู่ระบบ มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 4 เท่าตัว หรือเป็นวงเงินที่พื้นที่ได้ประโยชน์ 8,000 ล้านบาท โดยการลงพื้นที่บ้านบึงโมเดล ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.บ้านบึง ครั้งนี้ก็เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมผ่านศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม4.0(ไอทีซี4.0)ในช่วงที่ผ่านมา และหากสศช.อนุมัติงบประมาณบ้านบึงโมเดลจะเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับการต่อยอดโครงการดังกล่าว”
สำหรับ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประสบปัญหาในช่วงการระบาดของ โควิด-19 ว่า ล่าสุด ผู้บริหาร บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้าพบเมื่อหารือถึงแผนการผลิตรถยนต์ของบริษัท โดยบีเอ็มดับเบิลยูฯแจ้งว่าได้รับผลกระทบจากโควิดจึงต้องการขอปรับลดยอดการผลิตรถยนต์ในไทยให้เหลือ 1,000 คัน จากเดิมกำหนดไว้ที่ 2,000 คันตามบัตรส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) แต่บีโอไอแจ้งว่าต้องรับการอนุมัติจากกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) กล่าวว่า กสอ.กำลังเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งเน้น 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และคนว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ภายใต้งบประมาณของกระทรวงฯ และการขอรับจัดสรรเพิ่มจาก พ.ร.ก.เงินกู้กระทรวงการคลัง เพื่อให้การขยายผลสามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะภาคเกษตรอุตสาหกรรมได้จัดตั้งธุรกิจผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรที่ยังขาดแคลน ตลอดจนพัฒนาธุรกิจผู้ให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรแปลงเล็กแบบครบวงจรในอัตราค่าบริการที่เหมาะสมและเข้าถึงได้
"กสอ.จะช่วยเหลือแก่เกษตรกรในทุกพื้นที่ ในทุกกระบวนการจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผ่านศูนย์ไอทีซี 4.0 ที่มีความพร้อมเพื่อการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป คาดว่าจะสร้างเกษตรอุตสาหกรรมได้ 80 กลุ่มทั่วประเทศทันทีภายใน 90 วัน"