นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศภายในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปรับลดลงอีกลิตรละ 50- 60 สตางค์ (สต.)เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลก ยังอยู่ในระดับต่ำ จากปริมาณน้ำมันยังล้นตลาดอยู่  แต่ในเดือนพ.ค. เป็นต้นไป คาดว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับขึ้นเล็กน้อย จากปัจจุบันอยู่ที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยคาดว่า เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 31 -35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น มีผลต่อราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไม่เกินลิตรละ 1 บาท เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปก) และกลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมน ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นร่วมกันว่า ทั้ง2 ฝ่ายจะลดกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ค. นี้รวม9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปกติ

 “แนวโน้มราคาน้ำมันในเดือนพ.ค. เป็นต้นไป คาดว่า จะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดว่า อยู่ที่ 31-35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ยังไม่ดีดขึ้นไปสูงแบบปลายปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะคง ต้องใช้เวลาอีกนาน เนื่องจากความต้องการน้ำมันในตลาดโลกยังไม่สูงมาก เศรษฐกิจโลกยังไม่ดี และต้องดูข้อตกลงระหว่างกลุ่มโอเปก และพันธมิตร แม้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกันแล้ว แต่ก็ยังต้องติดต่อไป”     
 
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า สนพ.ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วง วันที่ 6 - 12 เม.ย. ที่ผ่านมา  พบว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากกลุ่ม โอเปก และพันธมิตรบรรลุข้อตกลงเบื้องต้น การลดกำลังการผลิตไปจนถึงปี 2565 แต่ตลาดโลก ยังคงไม่หลุดพ้นปัญหาปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด เพราะข้อตกลงเบื้องต้นของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงใน เดือนพ.ค.-มิ.ย. นี้  ประมาณ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในเดือนก.ค.-ธ.ค. นี้  จะปรับลดลง 8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเดือนม.ค. 2564 -เม.ย.25 65 จะปรับลดลง6 ล้านบาร์เรลต่อวัน