ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปยังเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือที่เราคุ้นหู้กับคำว่าไวรัสโคโรนาก่อนหน้านี้ ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวทำให้หลายคนหวาดกลัวไม่กล้าที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่วางแผนไว้ต่างยกเลิกโปรแกรมกันถ้วนหน้า แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ยังดั้นด้นไป (รวมถึงตัวผู้เขียน)

แน่นอนว่าการไปเที่ยวญี่ปุ่นนอกเหนือจากการชมเมืองและสถานที่สำคัญๆ แล้วการช้อปปิ้งก็เป็นของคู่กันด้วยเพราะผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของญี่ปุ่นนั้นมีคุณภาพและมีหลากหลายให้เลือกซื้อ และแรงดึงดูดในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ก็แทบจะเตะตา เตะใจให้ต้องควักเงินจับจ่ายในทันทีตั้งแต่แรกพบ   ซึ่งหากใครเคยไปช้อปปิ้งแถวย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi)ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้าคงจะจำภาพผู้คนที่เดินกันพลุกพล่าน ยัดเยียด เบียดเสียด แถมต้องแย่งกิน แย่งใช้ แม้กระทั่งแย่งเข้าคิวจ่ายเงินแข่งกับนักท่องเที่ยวจีน

ภาพเหล่านั้นตัดไปได้เลย! เพราะครั้งนี้บรรยากาศของการท่องเที่ยวกลายเป็นผู้คนญี่ปุ่นที่เดินอยู่เป็นส่วนใหญ่ และเมื่อรวมกับนักท่องเที่ยวบางส่วนภาพผู้คนจะหลวมๆ ไม่เบียดเสียด เรียกว่ากำลังพอดี ทำให้บรรยากาศนั้นชิวได้เต็มที่จริงๆ ไม่ต้องเร่งรีบ และที่สำคัญไม่ต้องแย่งกันซื้อ แย่งกันเข้าคิวเพื่อรอทานราเมงเช่นที่ผ่านมา เมื่อสอบถามก็พบว่าคนญี่ปุ่นเองก็ถือโอกาสนี้ออกมาท่องเที่ยว หาร้านอาหารโปรดนอกบ้านทานกัน ด้วยเพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาใช้บริการจนทำให้ไม่เหลือคิวให้นั่นเอง

นอกจากนี้ในบรรดาของฝากที่นักท่องเที่ยวต่างมีเป้าหมายเดียวกันในช่วงนี้ก็หนีไม่พ้น หน้ากากอนามัยหรือ Mask ที่หลายคนฝากซื้อและบางคนจะซื้อเป็นของฝาก แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องผิดหวังตามๆ กันด้วยเพราะร้านค้าส่วนมากไม่มีสินค้าจำหน่ายเพราะมีการจำกัดปริมาณการขาย หากนักท่องเที่ยวรายใดมาเจอก่อนเมื่อซื้อไปก็แทบจะหมดทันทีในแต่ละวัน  ซึ่งก็พบว่านักท่องเที่ยวไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลกในการกว้านซื้อ Mask ในญี่ปุ่นเช่นกัน

อย่างไรก็ตามการหาซื้อหน้ากากอนามัยที่ญี่ปุ่นล่าสุดหาไม่ได้โดยง่ายเพราะลำพังคนญี่ปุ่นเองก็ยังขาดแคลนจนทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาตรการให้เงินสนับสนุนพร้อมชุดมาตรการช่วยเหลือ กับบรรดาผู้ผลิตหน้ากากอนามัย

เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้มากขึ้น ตอกย้ำรายงานข่าวจากเอเอฟพีเมื่อ 18 ก.พ. 63 ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของโรงพยาบาลกาชาดในเมืองโกเบเผยว่ากล่องอนามัยที่ถูกเก็บไว้ในตู้เก็บของที่มีกุนแจล็อคได้ถูกขโมยไป 4 กล่องที่มีหน้ากากอนามัยกล่องละ 1,500 ชิ้น

ทั้งนี้เมื่อนักท่องเที่ยวไทยเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่นสิ่งแรกคือจะต้องโดนตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อคัดกรองซึ่งก็เพียงแค่เข้าแถวเจ้าหน้าที่ก็จะมีเครื่องมือคอยสแกนว่าใครตัวร้อนจัดเข้าข่ายต้องกักตัวไว้เท่านั้น ขั้นตอนนี้ก็ถือว่าไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่เมื่อลงมาเอากระเป๋าก่อนจะออกไปนั้นจะต้องผ่านด่านศุลกากรเสียก่อนแน่นอนว่า คนที่ถือกล่องกระดาษอาจถูกสุ่มตรวจโดยง่ายเพราะเขาเกรงว่าจะมีการลักลอบนำเข้าหน้ากากมาจำหน่ายนั่นเองเพราะก่อนหน้านี้มีอยู่พอสมควร