จะเกิดอะไรขึ้น!“อีก17 ปี คนไทย 3 คนจะเป็นผู้สูงอายุ 1 คน”
Written by Arin P.ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ (Complete Aged Society) ในปี 2564หลังจากที่ไทยเริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัยนับตั้งแต่ปี 2548 แต่สิ่งที่น่าตกใจมากกว่าคืออีก17 ปีข้างหน้าคนไทย3 คนจะเป็นผู้สูงอายุ 1 คน และอีก4ปีจากนั้นเราจะคว้าตำแหน่งมีคนสูงวัยมากสุดในอาเซียน
ทั้งนี้ข้อมูลจาก กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ชี้ให้เห็นว่าเมื่อ 14 ปีก่อน หรือปี 2548 ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุต่อประชากรทั้งประเทศ อยู่ในระดับต่ำเพียง 10.3 % หรือคิดเป็นสัดส่วนแค่ 1 ใน 10 นั่นคือในเมืองไทย ประชาชน 10 คน จะเป็นผู้สูงอายุแค่ 1 คน ก่อนจะขยับสัดส่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น11.8 % ในปี 2553 ใช้ระยะเวลาถึง 5 ปี จึงมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 %
แต่อีก 5 ปีต่อมา สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปในปี 2559 เมื่อครบปีที่ 10 จากข้อมูลพบว่า ทั้งประเทศมีผู้สูงอายุราว 10 ล้านคน (10,783,380 คน) หรือ คิดเป็น 16.5 % และยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า การเพิ่มจำนวนประชากรผู้สูงอายุไทย “เพิ่มมากขึ้น ในอัตราเร่งที่สูงขึ้น” โดยสังเกตจากช่วง 5 ปีหลัง มีอัตราเพิ่มรวมสูงถึง 4.7 หรือเกือบระดับ 5 % เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากช่วง 5 ปีแรก ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นรวม 5 ปี เพียงระดับ 1 ที่ 1.5 %
แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นทุกปี ตลอด 10 ปี ตั้งแต่ 2548-59 และเพิ่มขึ้นถึง เกือบ 1 %ต่อปี ในช่วง 5 ปีหลัง แตกต่างอย่างมากกับช่วง 5 ปีแรก ที่เพิ่มขึ้นน้อยมากเพียง 0.3%ต่อปี หรือรวม1.5 % ต่อ 5 ปี จากสถานการณ์ดังกล่าว คาดว่า อัตราการเพิ่ม จะเร่งสูงขึ้นจนถึงระดับ 20 % ในอีก 5 ปีต่อไป คือในปี 2564 หรืออีก 2 ปีนับจากพ.ศ. 2562 นี้. ที่มีประชากรผู้สูงอายุราว 12 ล้านคนในปัจจุบัน
และที่น่าสนใจก็คือ ถัดไปอีก 10 ปี ในปี 2574 คาดว่า จะมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นถึง27 % และจะเพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศในอีก 5 ปีต่อไป คือในพ.ศ. 2579 เมื่อถึงเวลานั้น ในประเทศไทย จำนวนประชาชน 3 คน จะเป็นผู้สูงอายุ 1 คน
"สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุไทย สูงสุดในอาเซียน ???? "
ขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติ หรือ UN คาดการณ์อย่างสอดรับกันว่า ประเทศไทยในอนาคต จะมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุ สูงที่สุดในอาเซียน โดยในปี 2583 สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนไปอยู่ที่ระดับ 33 % หรือราว 1 ใน 3 ของสัดส่วนประชากรไทย
จะเกิดอะไรขึ้น ??? เมื่อไทยกำลังมีคนสูงวัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ให้ข้อมูลว่า ได้แบ่งผู้สูงอายุ ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มใหญ่สุด เรียกกลุ่มติดสังคม เป็นผู้สูงวัยสุขภาพดี มีชีวิตตามลำพังได้ มีราว 8 ล้านคน ( 7,961,690 คน) คิดเป็นร้อยละ 79.5 กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มติดบ้าน เป็นผู้ต้องการการช่วยเหลือดูแลในชีวิตประจำวัน มีประมาณ 2 ล้านคน ( 1,902,795 คน) คิดเป็นร้อยละ 19และสุดท้ายคือ กลุ่มติดเตียง ต้องอยู่ในการดูแลทางการแพทย์ระยะยาว เพื่อรักษาพยาบาล และสวัสดิการมีประมาณ แสนกว่าๆ (150,220 คน) หรือคิดเป็นร้อยละ 1.5
ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุไทย ต้องได้รับการดูแลหลากหลายรูปแบบ จึงแบ่งงานเป็นหลายด้าน คือ ด้านสังคม ผู้สูงอายุไทยจะได้รับการคุ้มครองตามสิทธิพึงได้ ที่ระบุไว้ในกฎหมาย และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุอยู่ย่างมั่นคงในสังคม ส่งเสริมการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเพื่อให้ผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมสังคม เลี่ยงการอยู่ลำพัง ดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีร่วมกับผู้อื่น ด้านสุขภาพ ส่งเสริมดูแลผู้สูงอายุให้แข็งแรงทั้งกายใจ เกิดสมดุลในชีวิต
ด้านสิ่งแวดล้อมและบริการสาธารณะ จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ อาทิ การสนับสนุนภาคส่วนต่างๆ ร่วมมือกันสร้างชุมชนน่าอยู่ ดูแลซ่อมแซมที่พักอาศัยให้ผู้สูงอายุ การไปเยี่ยมบ้านให้กำลังใจผู้สูงอายุติดเตียง และงานบริการต่างๆ อีกด้านที่สำคัญคือ ด้านเศรษฐกิจ จัดหางานให้ผู้สูงอายุ 34.6 % ที่กำลังหางานทำ โดยใช้ความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ หรือขยายอายุทำงานต่อในที่เดิม หลังอายุ 60 ปี และเรื่องการออม กับการสร้างหลักประกันรายได้ผู้สูงอายุ