5 องค์กรชั้นนำได้แก่ ดาว ประเทศไทย (Dow) กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ บริษัท เอ็ม.บี.เจ. และ ม.ลาดกระบัง ร่วมกันประกาศความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “กรีนพลาส พาเลท” พาเลท เพื่อธุรกิจคลังสินค้า – งานขนส่งอุตสาหกรรม ใช้ผลิตภัณฑ์รีไซเคิล ถุงเติมสบู่เหลว ถุงเติมน้ำยาปรับผ้านุ่ม แชมพูชนิดซอง สู่การผลิตไม้เทียม  ลดขยะได้กว่า 104 ตันต่อปีในระยะแรก และยังมีแผนจะช่วยส่งเสริมให้ไปสู่เชิงพาณิชย์ในบริษัทอื่นๆ ต่อไป

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เปิดเผยว่าในวันนี้(26 ตุลาคม ) กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็ม.บี.เจ. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ร่วมกันประกาศความสำเร็จในการพัฒนาพาเลท หรือเรียกว่า “กรีนพลาส พาเลท” เป็นการขับเคลื่อนภายใต้ โครงการ “Greenplas Pallet for Green Industry” เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เป็นไม้เทียมที่มีส่วนผสมระหว่างผงไม้กับพลาสติกใช้แล้ว เพื่อใช้ในธุรกิจ คลังสินค้าและงานขนส่งอุตสาหกรรม ที่ผลิตจากไม้เทียมผสมบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้แล้ว เช่น ถุงเติมสบู่เหลว ถุงเติมน้ำยาปรับผ้านุ่ม แชมพูชนิดซองฯลฯ

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย มุ่งมั่นนำพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างตลาดให้กับพลาสติกที่ใช้แล้วซึ่งให้มีมูลค่าและมีการเก็บเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเคลื่อนโครงการ การใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ ไม้เทียมที่มีส่วนผสมระหว่างผงไม้กับพลาสติกใช้แล้ว เพื่อทดแทนไม้จริง จนเป็นผลสำเร็จที่พร้อมใช้งานในโรงงานและคลังสินค้าของ Dow  ซึ่งสอดคล้องกับเป้าการทำงานด้านความยั่งยืนของ Dow ที่ตั้งเป้าว่า ภายในปี พ.ศ. 2573 เราจะช่วยทำให้ขยะพลาสติกจำนวน 1 ล้านตันถูกเก็บกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลผ่านการดำเนินการของบริษัทฯ และความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ” ทั้งนี้ พาเลทไม้เทียม  เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ได้ในปริมาณมาก และยังต่อยอดนำไปประยุกต์ใช้งานด้านอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ รั้ว สนามเด็กเล่น ได้ในอนาคต โดยภายในปี 2565  Dow วางแผนจะใช้แผ่นไม้เทียมจากพลาสติกใช้แล้วนี้ประมาณ 147,000 แผ่นต่อปี นำมาประกอบเป็นพาเลทเกือบ 59,000 ตัว ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ประมาณ 108 ตันต่อปี เทียบเท่าปลูกต้นไม้ 333 ไร่ต่อปี

"กรีนพลาส พาเลท” ผลิตจากไม้เทียมที่มีส่วนผสมระหว่างผงไม้กับพลาสติกใช้แล้วเพื่อทดแทนไม้จริง ในสัดส่วน 10-45% โดยใช้ประโยชน์จากพลาสติกที่รีไซเคิลยาก ได้แก่ ถุงบรรจุภัณฑ์ที่ประกอบด้วยพลาสติกหลายชั้น (multi-layer) และยังมีแผนที่จะขยายการทดสอบไปสู่พลาติกชนิดอื่นๆ ที่จะมีการรวบรวมบรรจุภัณฑ์พลาสติกเป้าหมายจากครัวเรือนมาผลิต “กรีนพลาส พาเลท” เพื่อลดขยะอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์นโยบายสิ่งแวดล้อมทั้งระดับโลก และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN’s SDGs) ระดับประเทศ เช่น นโยบาย BCG (Bio-Circular-Green) Economy ของรัฐบาล

คุณชู ลิม รองประธานบริหาร ฝ่ายซัพพลายเชน กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยและภาคพื้นอาเซียน กล่าวว่า ความร่วมมือใน โครงการ “Greenplas Pallet for Green Industry สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทในการขับเคลื่อนนโยบายในการเรียกเก็บบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้วนำกลับมาเข้าสู่ระบบรีไซเคิลให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะเรียกเก็บบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วให้มีปริมาณที่มากกว่ายอดขายที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายในปี 2568 ให้เป็นผลสำเร็จผ่านความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่จะทำให้สามารถนำขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งหลังการบริโภคเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน

คุณสมศักดิ์ บริสุทธนะกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การบริหารจัดการขยะพลาสติกได้อย่างครบวงจรตั้งแต่การจัดหาพลาสติกที่ใช้แล้วจากผู้บริโภค การแปรรูปพลาสติกที่ใช้มาเป็น ผลิตภัณฑ์พาเลทไม้เทียม ที่ผ่านการทดสอบพบว่ามีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้งานได้เทียบเท่าไม้จริง ดังนั้น โครงการนี้จึงถือเป็นหนึ่งในโครงการต้นแบบที่นำเอาหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy มาใช้ได้อย่างแท้จริง

คุณบำรุง เจษฎาพงศ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม.บี.เจ.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า  บริษัทเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Greenplas Pallet นอกจากแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังสามารถสร้างประโยชน์ในด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ นับเป็นการสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ ที่มีการนำขยะไปใช้ต่อยอดเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวมได้

ศาสตราจารย์ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า จากการพัฒนานวัตกรรม โครงการ “Greenplas Pallet for Green Industry” ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง (สจล หรือ KMITL) เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จนประสบผลสำเร็จในการนำไปใช้เชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของ สถาบันฯที่มุ่งมั่นที่ในการสร้างสรรนวัตกรรมระดับโลก ตามวิสัยทัศน์ “The World Master of Innovation” แพลตฟอร์มสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน 5 ด้าน  ประกอบด้วย ด้านที่ 1: สร้างหลักสูตรทันสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลง”เพื่อตอบโจทย์ Thailand 4.0 ด้านที่ 2: “สร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง” ด้านที่ 3: สร้างระบบนิเวศแห่งการสร้างสรรค์” เอื้อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ทั้งเชิงกายภาพและเชิงดิจิตอล ด้านที่ 4: เพิ่มขีดความสามารถนักศึกษาและบุคลากร” และ ด้านที่ 5: พัฒนาองค์กรต่อเนื่องมุ่งสู่ความยั่งยืน”

อย่างไรก็ตามในระยะแรกเป็นการนำผลิตภัณฑ์ “กรีนพลาส พาเลท”  ที่ได้ไปใช้งานในโรงงานและคลังสินค้าของ Dow และในระยะต่อไปจะมีการนำผลิตภัณฑ์เพื่อการขยายตลาดไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยทั้ง 5 องค์กร จะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ และรณรงค์ให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นในการคัดแยกถุงบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเพื่อเป็นวัตถุดิบ ซึ่งจะช่วยให้พลาสติกใช้แล้วถูกนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างอันจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยมากยิ่งขึ้นต่อไป