นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)ซึ่งเป็นผู้บริหารปตท.คนที่ 10 เปิดเผยว่า มองราคาน้ำมันดิบตลาดโลกผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่โควิด-19 มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ประกอบกับเกิดภาวะสงครามราคาน้ำมันในกลุ่มโอเปกพลัส แต่สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์จากโควิด-19 กลุ่มโอเปกพลัสสามารถหาข้อยุติในการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงได้ ปตท.จึงคาดการณ์ทิศทางน้ำมันปีนี้ทั้งปีเเคลื่อนไหวบวกลบอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
 
“จากนี้ไปสถานการณ์ราคาน้ำมันคงไม่เลวร้ายเหมือนช่วงที่ผ่านมา เพราะกลุ่มโอเปกพลัสสามารถเจรจาหาข้อตกลงร่วมกันได้แล้ว อีกทั้งโควิด-19 ก็เริ่มคลี่คลายลงแม้ในระยะข้างหน้าจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าโควิด-19 จะกลับมาระบาดรอบสองอีกหรือไม่ เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ได้ และเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม“
 
โดยเบื้องต้นประเมินแนวโน้มปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในประเทศช่วงที่เหลือของปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันภาคพื้นที่คนจะใช้รถยนต์ในการเดินทางมากขึ้น แต่จะขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมาหรือไม่ต้องติดตามประเมินภาพรวมอีกครั้ง เพราะความต้องการใช้น้ำมันภาคพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงความต้องการใช้ที่จำกัดเฉพาะกำลังซื้อในประเทศเท่านั้น แต่ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวและการส่งออกเป็นหลัก ดังนั้นหากยังไม่มีการเปิดเส้นทางการบินสำหรับเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ ก็ยังไม่มีความต้องการใช้เชื้อเพลิงในภาคส่วนต่างๆ จากภาคการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้คงจะติดลบแน่นอนตามที่หลายหน่วยงานพยากรณ์ไว้
 
นายอรรถพล ยังกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจปี 2563 ว่าทั่วโลกและไทยต้องเผชิญความท้าทายจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวน ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ธุรกิจพฤติกรรมผู้บริโภคสู่บริบทใหม่ ปตท.จึงต้องรักษาความเข้มแข็งของธุรกิจหลักและสร้างธุรกิจใหม่แทนการเติบโตรูปแบบเดิมรองรับวิกฤตและความต้องการของผู้บริโภคด้วยกลยุทธ์ PTT by PTT คือ Powering Thailand’s Transformation ประกอบด้วย
 
การสร้างพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจ(Partnership and Platform) ทั้งดึงดูดพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศควบคู่กับการสร้างความร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจ เอกชน ผู้ประกอบการไทย และเอสเอ็มอี การพัฒนาเทคโนโลยีที่ผสมผสานความรู้ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรม ดิจิตอลในทุกมิติ(Technology for All) การสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในการเนินธุรกิจ(Transparency and Sustainability)
 
ทั้งนี้ภายใต้การนำแนวคิด 4R’s มาประยุกต์ใช้ตั้งแต่การสร้างความยืดหยุ่น(Resilience) พร้อมดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จัดความสำคัญของโครงการลงทุนตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำและรักษาสภาพคล่อง การเตรียมความพร้อมนำธุรกิจ พนักงาน ลูกค้าและคู่ค้ากลับสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด(Restart) เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน การออกแบบธุรกิจรองรับการเปลี่ยนแปลง(Re-imagination) และการปฏิรูปปรับโครงสร้างองค์กรและธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตพร้อมรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้อีกทุกเมื่อ

Tips & Healthy

...

เฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้สูงอายุ ...

สายกรีนอย่าพลาด!! ...

ปลายเดือนที่ผ่านมา ...

กลุ่ม KTIS ...

กลุ่ม KTIS ร่วมกับมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ...

10 ...

วิธีดูแลผู้สูงอายุ ...

Banner_ad2
BannerR1
Banner_ad2
Template Settings
Select color sample for all parameters
Red Green Blue Gray
Background Color
Text Color
Google Font
Body Font-size
Body Font-family
Scroll to top