“สุริยะ” ชูอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เนื่องจากมีศักยภาพและขยายตัวตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โดยเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)ได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ระยะที่ 1 (ปี 2562-2570) เพื่อตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารอนาคตของอาเซียน อาทิ อาหารแปรรูปทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรค หรือ อาหารที่ใช้นวัตกรรมแปรรูปไม่ให้รสชาติสูญหายไประหว่างการรอจำหน่าย เพื่อให้มีอายุเก็บรักษาที่ยาวนานมากขึ้น และเป็น 1 ใน 10 ของประเทศผู้ส่งออกอาหารของโลก และในปีนี้ กระทรวงฯได้จัดสรร งบประมาณขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปรวม 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก (Local Economy)
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว ยังเป็นการช่วยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารสู่อาหารอนาคต รวมถึงเพิ่มมูลค่าการส่งออกอาหาร ก่อเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารที่ประเทศไทยมีศักยภาพ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น นำไปสู่ฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทยในสถานการณ์ปัจจุบัน
ผมคาดว่าภายใน 1 ปี นับจากนี้ไป รายได้ของเกษตรกรที่เข้าร่วมกับโครงการดังกล่าว จะเพิ่มเป็น 53,000 บาท ต่อคนต่อปีและ ในระหว่างการดำเนินโครงการตามแผนดังกล่าว รายได้เกษตรกรจะเพิ่มเป็น 66,000 บาท ต่อคนต่อปี และในปี 2570ที่เป็นปีสุดท้ายของโครงการ จะทำให้ รายได้เกษตรกรจะเพิ่มเป็น 91,000 บาท ต่อคนต่อปี และสามารถต่อยอดช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภทของประเทศไทยให้เพิ่มเป็น 1.4 ล้านล้านบาทภายในปี2570 รวมทั้งช่วยสร้างรายได้ให้ธุรกิจอาหารที่เกี่ยวเนื่องให้เพิ่มขึ้นอีก 4.5 ล้านล้านบาท ครอบคลุมผู้ประกอบการในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 7.6 ล้านราย ก่อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆในอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศ ไทยรวม480,000ล้านบาท”
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าผลักดันอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เนื่องจากมีศักยภาพในการขยายตัวท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และตอบสนองความต้องการทั่วโลกภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ (นิว นอร์มอล)
นายสุริยะ กล่าวว่ากระทรวงฯจึงจะต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารของไทยในช่วงโควิด-19 ยังคงเติบโต เห็นได้จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอาหาร 6 เดือนแรกของปี นี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.5% โดยผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารบางชนิดมีแนวโน้มดีขึ้น เช่น สินค้าอาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง เนื่องจากเก็บรักษาไว้ได้นาน เนื่องจากมีความกังวลว่าจะเกิดการขาดแคลนอาหาร จึงมีการสำรองอาหารอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด สศอ.ได้ร่วมกับสถาบันอาหาร จัดทำแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล เนื่องจากได้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสของธุรกิจอาหารฮาลาล โดยอาหารฮาลาลเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เป้าหมายตามการแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ระยะที่ 1 ปี (ปี 2562-2570)
“ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารฮาลาล ลำดับที่ 10 ของโลก โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าฮาลาลที่ผลิตจากธรรมชาติ 80% เช่น ข้าว น้ำตาลทราย แป้งมันสำปะหลัง ผักผลไม้ ส่วนที่เหลือเป็นสินค้าฮาลาลที่ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานเครื่องหมายฮาลาล โดยเฉพาะกลุ่มเนื้อสัตว์และอาหารพร้อมรับประทาน ซึ่งตลาดหลักในการส่งออก ได้แก่ อาเซียน ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้”