นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการพลาสติก (คืน) สุขระหว่าง นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด(มหาชน) หรือจีซี กับนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์

ว่า “โครงการพลาสติก (คืน) สุข” เกิดจากแนวคิดของ จีซี  ที่ต้องการยกระดับการแก้ปัญหาท่ีเป็นการนำพลาสติกท่ีใช้แล้ว กลับเข้าสู่ระบบเพื่อนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิล(อัพไซเคิล)ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีคุณค่าหรือนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องรบกวนทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มเติม

           โครงการดังกล่าว เป็นการการตั้งจุดรับ (Drop Point) ตามสถานที่ต่างๆ  ซึ่ง จีซี เห็นว่า โออาร์  เป็นผู้นำด้านสถานีบริการน้ำมัน (ป้ัม)และมีสาขาอยู่ทั่วประเทศเหมาะที่จะตั้งจุดรับพลาสติกใช้แล้ว ที่ผ่านการทำความสะอาดมาระดับหนึ่ง โดยเริ่มจากพื้นที่ทดลองในเขตกรุงเทพฯ  และมีแผนจะขยายสู่ป้ัมโออาร์ ทั่วประเทศ

           ขณะที่นายคงกระพัน กล่าวว่า จีซี ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ภายใต้การดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ Smart Operating ในส่วนโรงงานหรือกระบวนการผลิต ,Responsible Caring ในส่วนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือนำกลับมาใช้ใหม่  และ Loop Connecting คือการสร้างแนวร่วมด้วยการเฟ้นหาพันธมิตร ที่มีแนวคิดและต้องการเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อสร้างความยั่งยืนเข้ามาทำงานด้วยกันและเชื่อมโยงให้ครบทั้งกระบวนการ

          ด้าน นางสาวจิราพร  กล่าวว่า โครงการพลาสติก (คืน) สุข เป็นการต่อยอดการดำเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมการแยกขยะของ โออาร์  ไปอีกขั้น ให้สามารถนำขยะพลาสติกที่แยกได้ไปผ่านกระบวนการ ให้สามารถกลับมาใช้ใหม่  โดยใช้จุดแข็งในเรื่องเครือข่ายที่ครอบคลุม และอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้สะดวกมาเป็นจุดเชื่อมให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมกับโครงการพลาสติก(คืน)สุขได้มากที่สุด
        “หากการดำเนินการทดลองวางจุดรับขยะหรือ Drop Point ในเฟสแรก ได้แก่ ชั้น 1 อาคาร EnCo A ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ชั้น 1 อาคาร ปตท.สำนักงานใหญ่ และที่ป้ัมโออาร์  สาขาประชาอุทิศ - ลาดพร้าว ได้รับการตอบรับที่น่าพอใจ โออาร์  ก็พร้อมที่จะขยายการวางจุดรับที่ป้ัม อื่นๆ ในเขตกรุงเทพฯ  จนถึงทั่วประเทศต่อไป  และโออาร์  ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่จะสามารถเชื่อมโยงการนำสินค้าที่ผลิตจากพลาสติกที่ทุกคนช่วยกันแยกมาใช้ดำเนินธุรกิจ รวมทั้งสามารถนำมาจำหน่าย หรือทำกิจกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ของ โออาร์  ได้อีกด้วย “